ประกาศพระราชบัญญัติลักษณะลักพา
ณ วันจันทร์ เดือนยี่ ขึ้น ๑ ค่ำ ปีฉลูสัปตศก
มีพระบรมราชโองการมานพระบัณฑูรสุรสิงหนาท ให้ประกาศแก่ลูกขุนตุลาการโรงศาล แลราษฎรในกรุงหัวเมืองให้ทราบทั่วกันว่า เมื่อวันอาทิตย์ เดือนอ้าย แรม ๗ ค่ำ ปีฉลูสัปตศก๑๕ เสด็จออกหน้าพระที่นั่งสุทไธศวรรย์ มีหญิงสาวคนหนึ่ง ทำเรื่องราวฎีกามาทูลเกล้า ฯ ถวาย ความในฎีกาดังนี้
ข้าพระพุทธเจ้าอำแดงเหมือนเป็นบุตรนายเกต อำแดงนุ่น อายุข้าพระพุทธเจ้าได้ ๒๑ ปี
Fusion KM
Saturday, February 1, 2014
Monday, January 27, 2014
นิทานเวตาล เรื่องที่ 10 : ปริศนายากของเวตาล
เวตาลกล่าวว่าครั้งนี้ข้าพเจ้าให้เกิดเขม่นตาซ้าย หัวใจเต้นแรงแลตาก็มืดมัว เป็นลางไม่ดีเสียแล้ว แต่ข้าพเจ้าก็จะเล่าเรื่องจริงถวายอีกเรื่องหนึ่ง แลเพราะเหตุข้าพเจ้าเบื่อหน่ายการถูกแบกสะพายไปมาเป็นหลายเที่ยวแล้ว แม้พระองค์ไม่ทรงเบื่อเป็นผู้แบกก็จริง ข้าพเจ้าจะตั้งปัญหาที่อยากทูลถามสักที ถ้าทรงตอบได้ พระปัญญาก็มากยิ่งกว่าที่ข้าพเจ้าคิดว่าจะมีในพระราชาพระองค์ใด
ในโบราณกาลเมืองใหญ่เมืองหนึ่งชื่อ กรุงธรรมปุระ พระราชาทรงนาม ท้าวมหาพล มีมเหสีซึ่งแม้มีพระราชธิดาจำเริญวัยใหญ่แล้วก็ยังเป็นสาวงดงามถ้าจะเปรียบกับพระราชบุตรีก็คล้ายพี่กับน้องยิ่งกว่าแม่กับลูก ที่เป็นเช่นนี้ไม่ใช่เพราะพระราชธิดามีอาการแก่เกินอายุ ที่จริงเป็นด้วยพระราชมารดาเป็นสาวไม่รู้จักแก่ แลความสาวของพระนางเป็นเครื่องประหลาดของคนทั้งหลาย
ในโบราณกาลเมืองใหญ่เมืองหนึ่งชื่อ กรุงธรรมปุระ พระราชาทรงนาม ท้าวมหาพล มีมเหสีซึ่งแม้มีพระราชธิดาจำเริญวัยใหญ่แล้วก็ยังเป็นสาวงดงามถ้าจะเปรียบกับพระราชบุตรีก็คล้ายพี่กับน้องยิ่งกว่าแม่กับลูก ที่เป็นเช่นนี้ไม่ใช่เพราะพระราชธิดามีอาการแก่เกินอายุ ที่จริงเป็นด้วยพระราชมารดาเป็นสาวไม่รู้จักแก่ แลความสาวของพระนางเป็นเครื่องประหลาดของคนทั้งหลาย
Labels:
นิทานเวตาล
Sunday, January 26, 2014
นิทานเวตาล เรื่องที่ 9 : การชุบชีวิตด้วยความผิดพลาดของนางมุกดาวลี
เวตาลเล่าเรื่องซึ่งยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงอีกเรื่องหนึ่งว่า
กว้างแลไกลในประเทศอันงามซึ่งชนอารยะผู้มีถิ่นเดิมในแผ่นดินสูงทางตะวันตกสาดกันมาตั้งภูมิลำเนา เป็นปึกแผ่นอยู่นั้น เกียรติแห่งนาง มุกดาวลี บุตรพราหมณ์ หริทาส เลื่องลือทุกทิศ บัณฑิตแลกวีนับจำนวนร้อยพากันแต่งกาพย์กลอนสำแดงความรัก บ้างก็กล่าวว่านางอยู่ในที่ใด ที่นั้นย่อมสว่างเหมือนแสงฉายในเดือนมืด บ้างก็กล่าวสรรเสริญความงามแห่งนางแลแสดงทุกข์ที่เกิดเพราะความรัก
กว้างแลไกลในประเทศอันงามซึ่งชนอารยะผู้มีถิ่นเดิมในแผ่นดินสูงทางตะวันตกสาดกันมาตั้งภูมิลำเนา เป็นปึกแผ่นอยู่นั้น เกียรติแห่งนาง มุกดาวลี บุตรพราหมณ์ หริทาส เลื่องลือทุกทิศ บัณฑิตแลกวีนับจำนวนร้อยพากันแต่งกาพย์กลอนสำแดงความรัก บ้างก็กล่าวว่านางอยู่ในที่ใด ที่นั้นย่อมสว่างเหมือนแสงฉายในเดือนมืด บ้างก็กล่าวสรรเสริญความงามแห่งนางแลแสดงทุกข์ที่เกิดเพราะความรัก
Labels:
นิทานเวตาล
Saturday, January 25, 2014
นิทานเวตาล เรื่องที่ 8 : พระยศเกตุ กับ ทีฆทรรศิน และนางวิทยาธรสาว
เวตาลกล่าวว่า ข้าแต่พระราชาผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ข้าพเจ้ามีภักดีต่อพระองค์เพราะทรงพยายามมิได้ย่อหย่อนแลความมีพระเศียรดื้อเช่นนี้ บางทีก็ได้ผลสมหมาย จึงเป็นคุณที่บุคคลพึงอุดหนุนมิให้เสื่อมคลายไปได้ ข้าพเจ้ามีประสงค์จะฝึกฝนความเพียรของพระองค์ให้ทวียิ่งๆ ขึ้น จึงจะเล่านิทานเรื่องจริงถวายอีกเรื่องหนึ่งเป็นเครื่องบำรุงพระเศียรดื้อแลพระปัญญา
ในแคว้น องคะ (องคราษฎร์) มีพระราชาองค์หนึ่งทรงนาม พระยศเกตุ ปรากฏพระรูปประหนึ่งพระอนงค์มาครององค์ เป็นเครื่องเพลินตานางทั้งหลาย แลนางงามทั้งหลายก็เป็นเครื่องเพลินพระเนตรพระราชา เพราะเธอทรงหมกไหม้ใฝ่ฝันในกามารมณ์ พระเนตรคอยจะเพลินอยู่ง่ายๆ แลเพราะพระเนตรเพลินง่าย จำนวนนางข้างในจึงไม่น้อยแลเพิ่มร่ำไป
ในแคว้น องคะ (องคราษฎร์) มีพระราชาองค์หนึ่งทรงนาม พระยศเกตุ ปรากฏพระรูปประหนึ่งพระอนงค์มาครององค์ เป็นเครื่องเพลินตานางทั้งหลาย แลนางงามทั้งหลายก็เป็นเครื่องเพลินพระเนตรพระราชา เพราะเธอทรงหมกไหม้ใฝ่ฝันในกามารมณ์ พระเนตรคอยจะเพลินอยู่ง่ายๆ แลเพราะพระเนตรเพลินง่าย จำนวนนางข้างในจึงไม่น้อยแลเพิ่มร่ำไป
Labels:
นิทานเวตาล
Friday, January 24, 2014
นิทานเวตาล เรื่องที่ 7 : ความรักมนัสวี ผู้โง่เขลา
เวตาลเล่าว่า ยังมีเมืองชื่อ กุสมาวดี พระราชาคือท้าว สุพิจาร มีพระราชธิดาทรงนามนาง จันทร์ประภา เป็นนางงามยิ่งหญิงทั้งหลายและทรงชนมายุควรแก่การวิวาหะ
วันหนึ่งในวสันตฤดู พระราชธิดาแวดล้อมด้วยบริวาร เที่ยวชมพระราชอุทยาน ฤดูนั้นเป็นฤดูไม้เปลี่ยนใบแลผลิดอกงามไปทั้งสวน พระราชธิดาทรงเพลิดเพลินชมพรรณไม้ แลสนุกในการเย้าหยอกของหมู่นางที่ตามเสด็จ บ้างก็เก็บดอกไม้ไล่ซัดกันเป็นพวก ๆ บ้างก็วิ่งแข่งกันตามทางอันราบรื่น บ้างก็ปีนต้นไม้เก็บดอกแลผล บางพวกก็เพียรจับเพื่อนกันผลักลงสระ เป็นเวลาที่รื่นรมย์ทั้งพวก ส่วนพระราชธิดานั้นทรงสนุกในการเล่นของนางทั้งหลาย แลทรงเข้าช่วยเก็บดอกไม้ซัด แลผลักคนลงสระมากกว่าคนอื่นกล้าทำ เพราะนางเป็นราชกุมารีไม่มีใครซัดดอกไม้ตอบหรือผลักลงสระได้
วันหนึ่งในวสันตฤดู พระราชธิดาแวดล้อมด้วยบริวาร เที่ยวชมพระราชอุทยาน ฤดูนั้นเป็นฤดูไม้เปลี่ยนใบแลผลิดอกงามไปทั้งสวน พระราชธิดาทรงเพลิดเพลินชมพรรณไม้ แลสนุกในการเย้าหยอกของหมู่นางที่ตามเสด็จ บ้างก็เก็บดอกไม้ไล่ซัดกันเป็นพวก ๆ บ้างก็วิ่งแข่งกันตามทางอันราบรื่น บ้างก็ปีนต้นไม้เก็บดอกแลผล บางพวกก็เพียรจับเพื่อนกันผลักลงสระ เป็นเวลาที่รื่นรมย์ทั้งพวก ส่วนพระราชธิดานั้นทรงสนุกในการเล่นของนางทั้งหลาย แลทรงเข้าช่วยเก็บดอกไม้ซัด แลผลักคนลงสระมากกว่าคนอื่นกล้าทำ เพราะนางเป็นราชกุมารีไม่มีใครซัดดอกไม้ตอบหรือผลักลงสระได้
Labels:
นิทานเวตาล
Thursday, January 23, 2014
นิทานเวตาล เรื่องที่ 6 : พราหมณ์เกศวะ กับ บุตรเขย 3 คน
ครั้นพระวิกรมาทิตย์เสด็จกลับถึงต้นอโศก ทรงปีนขึ้นไปปลดเวตาลลงมามัดลงย่ามตามเคย แลทรงพาพระราชบุตรออกเดินไปหน่อยหนึ่ง เวตาลก็เล่าเรื่องที่กล่าวว่าเป็นเรื่องจริงอีกเรื่องหนึ่งดังนี้
เหนือฝั่งอันงามแห่งแม่น้ำยมุนา มีกรุงชื่อ ธรรมสถล ในกรุงธรรมสถลมีพราหมณ์คนหนึ่งชื่อ เกศวะ เป็นคนมีบุญ ปกติเป็นผู้ทำตบะแลบูชายัญ ณ ฝั่งแม่น้ำ เทวรูปที่ใช้บูชาก็ปั้นเองด้วยดินเหนียว หาเที่ยวซื้อจากผู้ทำขายไม่
พราหมณ์ผู้นี้เป็นผู้มีความรู้เมื่ออายุมาก เมื่อยังเด็กเป็นผู้ไม่มีเพียรในทางเล่าเรียน ใช้เวลาเมื่อยังเป็นหนุ่มในการบูชากามเทพแลนางรตี มิใคร่สร่างความมัวเมาในกาม เป็นเหตุบิดามารดามีเรื่องร้อนใจบ่อยๆ
เหนือฝั่งอันงามแห่งแม่น้ำยมุนา มีกรุงชื่อ ธรรมสถล ในกรุงธรรมสถลมีพราหมณ์คนหนึ่งชื่อ เกศวะ เป็นคนมีบุญ ปกติเป็นผู้ทำตบะแลบูชายัญ ณ ฝั่งแม่น้ำ เทวรูปที่ใช้บูชาก็ปั้นเองด้วยดินเหนียว หาเที่ยวซื้อจากผู้ทำขายไม่
พราหมณ์ผู้นี้เป็นผู้มีความรู้เมื่ออายุมาก เมื่อยังเด็กเป็นผู้ไม่มีเพียรในทางเล่าเรียน ใช้เวลาเมื่อยังเป็นหนุ่มในการบูชากามเทพแลนางรตี มิใคร่สร่างความมัวเมาในกาม เป็นเหตุบิดามารดามีเรื่องร้อนใจบ่อยๆ
Labels:
นิทานเวตาล
Wednesday, January 22, 2014
นิทานเวตาล เรื่องที่ 5 : นางโศภนี ผู้หลงรักโจร
เวตาลเริ่มด้วยสำเนียงโอนอ่อนว่า ข้าแต่พระราชาผู้ประเสริฐ พระองค์ทรงปัญญายิ่งล้นหาผู้เสมอมิได้ในสามภพก็จริง แต่หมาซึ่งเป็นสัตว์สี่เท้ายังรู้พลาดแลล้มในเวลาเหยียบที่ลื่นฉันใด ผู้เป็นปราชญ์แม้ปัญญาจะทึบเพียงไร.... พระราชาทรงจับย่ามกระชาก เวตาลแกล้งร้องครวญครางเหมือนหนึ่งได้ความเจ็บปวด ครั้นหยุดร้องก็เล่าต่อไปด้วยสำเนียงแจ่มใสว่า
ในเมืองชื่อ มาลยะ ตั้งอยู่แถบฝั่งเหนือแห่ง ภารตะวรรษ (คืออินเดีย) มีกรุงชื่อ จันทร์อุทัย พระราชาทรงนาม รันธีระ เป็นกษัตริย์คล้ายกับกษัตริย์อื่นอีกหลายองค์ซึ่งเป็นคนครึ่งเทวดา
เมื่อยังหนุ่ม พระองค์เป็นชายชนิดที่เรียกสรรพรสิก เป็นผู้ยินดีในรสทั้งปวง โปรดเสวยของมีโอชะแปลกๆ ทั้งชนิดที่ต้องเคี้ยวแลไม่ต้องเคี้ยว ทั้งที่เป็นอาหารแลไม่เป็นอาหาร ทั้งที่มีเยื่อและไม่มีเยื่อ ส่วนของเสวยที่ไม่ต้องเคี้ยวนั้น โปรดเสวยคราวหนึ่งมีปริมาณมากๆ แลซ้ำถี่ด้วย อนึ่งเธอโปรดฟังดนตรีแลทอดพระเนตรนางระบำ ทรงหมกไหม้ใฝ่ฝันในกามคุณยิ่งกว่าทรงแสวงความรู้ หรือทำบุญต่อเทวดาหรือสนทนากับคนฉลาด ครั้นพระชนมายุพ้น ๓๐ ปีไปแล้ว ก็กลับพระองค์เป็นคนละคน ทรงละเว้นการคะนองยินดีในรูปรสกลิ่นเสียง ทรงประกอบราชกิจเป็นอย่างดี ไม่ช้านักก็ได้พระนามว่าเป็นพระราชาผู้เลิศ จะหาพระมหากษัตริย์ดีเสมอนั้นยาก
ในเมืองชื่อ มาลยะ ตั้งอยู่แถบฝั่งเหนือแห่ง ภารตะวรรษ (คืออินเดีย) มีกรุงชื่อ จันทร์อุทัย พระราชาทรงนาม รันธีระ เป็นกษัตริย์คล้ายกับกษัตริย์อื่นอีกหลายองค์ซึ่งเป็นคนครึ่งเทวดา
เมื่อยังหนุ่ม พระองค์เป็นชายชนิดที่เรียกสรรพรสิก เป็นผู้ยินดีในรสทั้งปวง โปรดเสวยของมีโอชะแปลกๆ ทั้งชนิดที่ต้องเคี้ยวแลไม่ต้องเคี้ยว ทั้งที่เป็นอาหารแลไม่เป็นอาหาร ทั้งที่มีเยื่อและไม่มีเยื่อ ส่วนของเสวยที่ไม่ต้องเคี้ยวนั้น โปรดเสวยคราวหนึ่งมีปริมาณมากๆ แลซ้ำถี่ด้วย อนึ่งเธอโปรดฟังดนตรีแลทอดพระเนตรนางระบำ ทรงหมกไหม้ใฝ่ฝันในกามคุณยิ่งกว่าทรงแสวงความรู้ หรือทำบุญต่อเทวดาหรือสนทนากับคนฉลาด ครั้นพระชนมายุพ้น ๓๐ ปีไปแล้ว ก็กลับพระองค์เป็นคนละคน ทรงละเว้นการคะนองยินดีในรูปรสกลิ่นเสียง ทรงประกอบราชกิจเป็นอย่างดี ไม่ช้านักก็ได้พระนามว่าเป็นพระราชาผู้เลิศ จะหาพระมหากษัตริย์ดีเสมอนั้นยาก
Labels:
นิทานเวตาล
Subscribe to:
Posts (Atom)